ข่าวสารกิจกรรม ปูนยกแปด
 
-----------------------------------------------------------------
   
 
 
 
 
 
 
ปูนยกแปด
   
"ยกแปด" ตั้งเป้ารายได้ปี 2555 โต 30%
ปกรณ์วัสส์ อิทธิอาวัชกุล"ยกแปด" ตั้งเป้ารายได้ปี 2555 โต 30%  วิ่งเจาะกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย หลังประสบผลสำเร็จในตลาดปูนสำเร็จรูปยึดฐานลูกค้ากลุ่มแสนสิริ , เมเจอร์กรุ๊ป , ศุภาลัย และโครงการระดับหรูกว่า 20 แห่ง ได้แล้ว พร้อมเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้ใช้ปูนกาวโดยการส่งขนาด 20 กก. เอาใจตลาดทั่วไป
 
นาย ปกรณ์วัสส์ อิทธิอาวัชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยกแปด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนสำเร็จรูปยกแปด และปูนเคทีพี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปี 2555 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้โตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะเกิดจากผลที่บริษัทมีแผนจะขยายการผลิตปูนก่อ ปูนฉาบ ปูนสำเร็จรูปที่มีกำลังผลิตรวมกันที่ 12,000 ตัน/เดือน เพิ่มเป็น 15,000 ตัน/เดือน นอกจากนี้จะให้ความสำคัญทางการตลาดควบคู่กันไป ระหว่างการเจาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่คู่ขนานไปกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยขณะนี้บริษัทเข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ได้แล้ว   โดยล่าสุดกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกลุ่มแสนสิริ , เมเจอร์กรุ๊ป , ศุภาลัย และโครงการระดับหรูเลิศกว่า 20 แห่ง พร้อมกันลงนามเลือกใช้ปูนสำเร็จรูปของบริษัท "ยกแปด" โดยบริษัทมีลูกค้ารายใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 1,000 ราย    ส่วนการเข้าไปเจาะกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย ให้มากขึ้นจากที่มีอยู่แล้วประมาณ 20 รายจะเพิ่มเป็น 100 ราย   จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าทั้งหมด ให้โตขึ้นได้ระหว่าง 30-50% ในปี 2555
นอกจากนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้ใช้ปูนกาวโดยการส่งขนาดถุงละ 20 กิโลกรัม ราคา 90 บาท/ถุง   เพื่อเอาใจตลาดทั่วไปที่ซ่อมแซมบ้านจากที่ปัจจุบันจะมีเพียงขนาด 40 กิโลกรัม/ถุง ราคา 180 บาท/ถุงวางจำหน่ายเท่านั้น   ส่วนปูนฉาบยังคงไว้ที่ขนาดถุงละ 50 กิโลกรัม มีราคาตั้งแต่ 65 บาทขึ้นไป เช่นเดียวกับปูนแต่งผิวที่ยืนอยู่ที่ขนาด 25 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้จะเป็นการสร้างตลาดที่หลากหลายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เน้นงานซ่อมแซมเป็นหลัก
 
นอกจากนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้ใช้ปูนกาวโดยการส่งขนาดถุงละ 20 กิโลกรัม ราคา 90 บาท/ถุง   เพื่อเอาใจตลาดทั่วไปที่ซ่อมแซมบ้านจากที่ปัจจุบันจะมีเพียงขนาด 40 กิโลกรัม/ถุง ราคา 180 บาท/ถุงวางจำหน่ายเท่านั้น   ส่วนปูนฉาบยังคงไว้ที่ขนาดถุงละ 50 กิโลกรัม มีราคาตั้งแต่ 65 บาทขึ้นไป เช่นเดียวกับปูนแต่งผิวที่ยืนอยู่ที่ขนาด 25 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้จะเป็นการสร้างตลาดที่หลากหลายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เน้นงานซ่อมแซมเป็นหลัก
" ต้องเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าเอเยนต์รายใหญ่ให้ได้ก่อน   หลังจากนั้นเราจะได้เอเยนต์รายย่อยเข้ามาโดยอัตโนมัติ   รวมถึงการเน้นไปที่คุณภาพเพื่อให้ลูกค้าเชื่อใจ ใช้แล้วบอกต่อโดยเรื่องนี้ยกระดับให้เป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัท นอกจากนั้นจะเป็นงานบริการ เช่นรถบริการ เป็นรถที่เรียกว่ารถ "นายช่างยกแปด" ที่มีบริการทั่วประเทศค่อยให้บริการทางเทคนิคในการฉาบปูนให้เป็น
  อย่างไรก็ตาม ข้อดีของสินค้าคือ สามารถใช้กับอาคารสูงได้โดยใช้เครื่องพ่นฉาบยิงไปที่อาคารสูง มีคุณสมบัติฉาบขาว เนียน และไม่ร้าว   ทำให้ผู้ประกอบการอาคารสูง คอนโดมิเนียม และผู้รับเหมาก่อสร้าง ต่างมีความมั่นใจว่า ตลาดผู้ซื้อจะมีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วประมาณ 20-30% โดยเฉพาะปูนสำเร็จรูป ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการก่อสร้างอาคารสูงก็ยิ่งจะมีอัตราความต้องการเพิ่มขึ้นตามกัน โดยข้อได้เปรียบของบริษัทคือ ปูนสำเร็จรูป "ยกแปด" กับ ปูนสำเร็จรูป "เคทีพี" ได้สนองความต้องการได้ตรงตามจุดประสงค์ของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ และกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างในด้านของคุณภาพมาแล้วอย่างยาวนาน ยอมรับได้กับผลงานที่เคยเลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นอาคารเอ็นเนอร์ยี่ของ ปตท. , อาคารโรงพยาบาลศิริราช , อาคารศุภาลัย , สกายวอร์คคอนโดมิเนียม และอื่นๆจำนวนกว่า 1,000 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท  
ปัจจุบันบริษัท ยกแปด จำกัด ได้ผลิตปูนสำเร็จรูปจำหน่ายภายใต้ชื่อ 2 แบรนด์คือ ปูนสำเร็จรูปเคทีพี ประกอบด้วย ปูนก่อฉาบสำเร็จรูปทั้งอิฐมอญและอิฐมวลเบา ปูนฉาบผิวคอนกรีต ส่วนแบรนด์ ยกแปด ประกอบด้วย     ปูนกาวปูกระเบื้อง , ปูนแต่งผิวบาง( SKIMCOAT) สินค้าส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ "ยกแปด" ตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 เป็นต้นไป ยกเว้นปูนฉาบสำเร็จรูปที่ยังคงใช้แบรนด์ " เคทีพี" ดังเดิม  

นายปกรณ์วัสส์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านคุณภาพของปูนฉาบอิฐมวลเบา สืบเนื่องจากตลาดอิฐมวลเบาที่เพิ่มมากขึ้น ดูได้จากในส่วนของอาคารสูงและคอนโดมิเนียมที่มีการใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบามากกว่า 80%  โดยวางตำแหน่งให้ปูนฉาบอิฐมวลเบา เป็นสินค้าอันดับ1 รองลงมาคือ ปูนฉาบสำเร็จรูป ในขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังลูกค้ารายเดิมที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์อยู่ก่อนแล้ว  รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ จากแผนการตลาดดังกล่าว จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับ 4 ของปูนสำเร็จรูปในประเทศได้ในอนาคต จากปัจจุบันปูนสำเร็จรูปตรา "เสือ" จากค่ายเอสซีจี ครองตลาดเป็นอันดับ1 รองลงมาเป็นปูนสำเร็จรูปทีพีไอ และปูนสำเร็จรูปจากค่ายปูน "อินทรี"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2,717
26-29  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

     
 

Copy All Right Reserved 2012 By Yok8 Co., Ltd.
Address : 575/58 ถนนเสนานิคม 1 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230